ศจ.นพ.คงเดช ฤทธิ์ทวี คนเอเชียคนแรกที่คว้ารางวัล‘ผู้นำด้านสาธารณสุขจาก ม.ฮาร์วาร์ด

คำอธิบายจากผู้เชี่ยวชาญ: "โรคข้อเข่าเสื่อมคืออะไร? ทำไมถึงจัดอยู่ในอันดับต้น ๆ ของสาเหตุที่ทำให้พิการ?

โรคระบบกล้ามเนื้อและโครงกระดูก เกิดขึ้นเมื่อ ระบบกล้ามเนื้อ กระดูก ข้อต่อ เอ็น และระบบประสาท ทำงานเสื่อมลง ส่งผลให้ผู้ป่วยมีอาการปวดเมื่อย เคลื่อนไหวยากลำบาก ในชีวิตประจำวัน และอาจถึงขั้นสูญเสียความสามารถในการเคลื่อนไหวในอนาคต

สัมภาษณ์ ศจ.นพ.คงเดช ฤทธิ์ทวี ในห้องแลปเพื่อทำงานวิจัยเกี่ยวกับโรคกระดูกและเส้นประสาท

"โรคทางระบบกล้ามเนื้อและกระดูกที่คุกคามมนุษย์โดยตรงมีมากถึง 200 ชนิด รวม 2 กลุ่มหลัก ได้แก่
1. โรคที่เกิดจากการบาดเจ็บหรืออุบัติเหตุ
2. โรคทางระบบภูมิคุ้มกันบกพร่อง: โรคข้อเข่าเสื่อม หมอนรองกระดูกสันหลัง โรคข้ออักเสบ ปวดสะโพกลามไปที่ขา โรคเกาต์ น้ำไหลของเข่า..."

โรคกระดูกและข้อทำให้ผู้คนหลายล้านคนต้องสูญเสียความสามารถในการเคลื่อนไหว โดยเฉพาะผู้สูงอายุ น่าเศร้าที่โรคเหล่านี้กลับกำเริบขึ้นเรื่อยๆ ตัวเลขต่อไปนี้จะทำให้คุณสงสัยถึงอันตรายของโรคกระดูกและข้อที่เกิดขึ้นทุกวัน

ทั่วโลกมีผู้ป่วยโรคกระดูกและข้อประมาณ 2 พันล้านคน โรคกระดูกและข้อไม่ใช่โรคร้ายแรงถึงชีวิต แต่เป็นสาเหตุหลักของทำให้เป็นพิการและความเจ็บปวดเรื้อรัง งานวิจัยพบว่า 55% ผู้ป่วยโรคกระดูกและข้อจะสูญเสียความสามารถในการทำงาน 36% ไม่สามารถเดินได้ กลายเป็นคนพิการตลอดชีวิต และ และมีเพียง 9%คนที่โชคดีสามารถประคองโรคกระดูกและข้อได้ แต่ต้องใช้ยาแก้ปวดและการรักษาตลอดชีวิต ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรค ผู้ป่วยจะมีภาวะแทรกซ้อนและผลที่ตามมาอื่นๆ ที่รุนแรงกว่าเป็นระยะยาวโรคข้อเข่าเสื่อมและสลักเพชรจมเป็นโรคที่พบมากที่สุดในผู้สูงอายุ แต่สิ่งที่น่าสังเกตคือประเทศไทยอยู่ในอันดับต้นๆ ของประเทศที่มีสัดส่วนผู้สูงอายุมากที่สุดในโลก อันดับ 1 ของโลกที่กำลังเผชิญกับแรงกดดันจากวิกฤตการณ์ประชากรสูงอายุ ณ ปี พ.ศ. 2565 ประเทศไทยมีประชากรประมาณ 16 ล้านคน (22% ของประชากร) อายุ 60 ปีขึ้นไป ซึ่งเป็นช่วงอายุที่มักเป็นโรคข้อเข่าเสื่อมและสลักเพชรจมมากที่สุด ตามสถิติวิชัยว่า คนไทยอายุ 60 ปีขึ้นไป ทุก10 คน จะมี 7 คนที่มีอาการของโรคกระดูกและข้อ โดย มี3 คนประสบปัญหากับกิจกรรมประจำวันจนแทบจะเดินไม่ได้
น่ากังวลยิ่งขึ้นเมื่อโรคกระดูกและข้อไม่ได้เกิดขึ้นกับผู้สูงอายุเพียงอย่างเดียว โรคนี้มีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นเร็วขึ้นและคุกคามทุกคน จากสถิติในประเทศไทย อัตราผู้ป่วยโรคกระดูกและข้ออายุ 16 - 40 ปี เกิน 28% และเพิ่มขึ้น 1 - 2% ทุกปี

แผนภูมิสถิติคนไทยป่วยโรคกระดูกและข้อในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

โรคข้อเข่าเสื่อมเริ่มมีมากขึ้นในคนอายุน้อยกว่า

สัญญาณเตือนของโรคกระดูกและข้อ

วรสังเกตสัญญาณเตือนของโรคตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อการรักษาที่ทันท่วงที โปรดสังเกตว่าคุณมีอาการใดๆ ดังต่อไปนี้หรือไม่

อาการปวดสะโพกลามไปที่ขา: ปวดกระดูกสันหลัง โดยเฉพาะสะโพก ปวดแบบตื้อๆ เป็นพักๆ ปวดกะทันหันและยาวนานจนทำให้ผู้ป่วยนั่ง ยืน หรือเดินยากลำบาก และเมื่อรุนแรงทำให้ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้แค่อยากนอนนิ่งๆ โรคนี้เป็นโรคที่พบบ่อยในคนร้อยละ 50 หลังอายุ 55 ปี หากเพิกเฉยและไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้องและเร่งด่วนจะทำให้กล้ามเนื้อลีบ แขนขาเป็นอัมพาต และความพิการได้

ข้ออักเสบ: อาการบวม แดง แสบร้อน และปวดข้อ โดยเฉพาะข้อต่อ ที่มือ หัวเข่า ข้อเท้า ข้อศอก และเท้า เป็นสาเหตุหลักของข้อต่อเสื่อมอักเสบ ข้อพิการ และกล้ามเนื้อลีบ ผู้ป่วยเป็นโรคข้ออักเสบมากถึง 89% จะสูญเสียความสามารถในการจับสิ่งของ และเป็นอัมพาตหลังจากเริ่มเป็นโรค 10 ปี

โรคเกาต์: เกิดจากการอักเสบหรือบวมของข้อต่อ มักมีอาการปวด ร้อน และผิดปกติของการเผาผลาญ ความถี่ของอาการปวดจะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายและพฤติกรรมการใช้ชีวิตของผู้ป่วย โรคเกาต์เรื้อรังจะส่งผลให้เกลือยูเรตตกตะกอนในไต ทำให้เกิดโรคนิ่วในไต เพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะไตวาย ไตอักเสบ และความดันโลหิตสูง ในหลายกรณี เกลือยูเรตอาจตกตะกอนใต้ผิวหนัง ก่อตัวเป็นก้อนเนื้อหรือติ่งเนื้อ ที่เจ็บปวดและไม่น่าดู

หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท: รู้สึกชาตั้งแต่เอวลงมาจนถึงก้น ขา หรือปวดบริเวณคอแล้วลามไปถึงไหล่และลงมาจนถึงมือ เป็นต้น โรคนี้ยังทำให้เกิดอาการปวดกระดูกสันหลังและรากประสาทอีกด้วย อาการปวดแต่ละครั้งจะคงอยู่นานหลายสัปดาห์ ในระยะต่อมาอาการปวดจะรุนแรงและรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ผู้ป่วยมีปัญหาในการทำกิจกรรมและการเคลื่อนไหวในแต่ละวัน โรคนี้มีภาวะแทรกซ้อนที่เป็นอันตรายนับไม่ถ้วน เช่น ความผิดปกติของการขับถ่าย ระบบประสาทถูกทำลาย ระบบย่อยอาหารผิดปกติ สมรรถภาพทางเพศ ฯลฯ หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที อาการจะรุนแรงขึ้น และทำให้เสียทรงตัวเป็นอัมพาตครึ่งซีกและทั้งตัว

โรคข้อเข่าเสื่อม: เกิดจากกระดูกอ่อนบริเวณข้อเข่าเสื่อมสภาพ ส่งผลให้เกิดอาการปวด บวม ตึง ในข้อเข่า เมื่อยืดและเคลื่อนไหว ผู้ป่วยจะได้ยินเสียง ดังก๊อกแก๊ก ในข้อต่อ และรู้สึกเจ็บปวดมากเมื่อเคลื่อนไหว โรคข้อเข่าเสื่อมมักเกิดที่บริเวณกระดูกสันหลัง ส่วนเอว ข้อนิ้ว ข้อเข่า สะโพก ฯลฯ และตามมาด้วยภาวะแทรกซ้อนของกระดูกหรือเนื้อตาย เลือดออกตามข้อ ติดเชื้อ เส้นเอ็นฉีกขาด และ เอ็นบริเวณข้อเสื่อม น้ำหนักขึ้นเร็ว ความเสี่ยงต่อโรคต่างๆ เพิ่มขึ้น เช่น โรคอ้วน เบาหวาน โรคหลอดเลือด โรคหัวใจ และมะเร็ง

โรคที่คนไทยกว่า 80% กำลังประสบอยู่

โรคที่คนไทยกว่า 80% กำลังประสบอยู่นอกจากนี้ยังมีอาการหลากหลายของโรคที่เกี่ยวข้องกับกระดูกและข้อ เช่น โรคข้อเข่าเสื่อม โรคข้ออักเสบ โรคกระดูกสันหลังเสื่อม สาเหตุอาจมาจากการทำงาน เล่นกีฬา อุบัติเหตุ ฯลฯ ล้วนเป็นสาเหตุทำให้เกิดอาการเกี่ยวกับกระดูกและข้อในภายหลัง ผู้ป่วยควรสังเกตความผิดปกติของร่างกายเพื่อรับการรักษาให้ทันที เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะแทรกซ้อนที่ไม่พึงประสงค์

กลุ่มบุคคลที่มีความเสี่ยงต่อโรคข้อกระดูกเสื่อมและสลักเพชรจม

อาการปวดกระดูกและข้อสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน อย่างไรก็ตาม บุคคลต่อไปนี้มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดภาวะนี้ ได้แก่ ผู้สูงอายุ ผู้ที่มีน้ำหนักเกินตัวเป็นโรคอ้วน เคยบาดเจ็บที่คอต่อ กระดูกผิดรูป มีญาติเป็นโรคกระดูกและข้อ (กรรมพันธุ์) ) ผู้ที่เป็นโรคเกี่ยวกับระบบเผาผลาญ ทำงานหนัก ทำให้เกิดแรงกดดันต่อกระดูกและข้อต่ออย่างมากพนักงานออฟฟิศมีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นโรคข้ออักเสบที่ข้อมือ นิ้วมือ ปวดคอ บ่า ไหล่ กระดูกสันหลังคอเสื่อม และหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท มากกว่าผู้ที่ทำงานประเภทอื่น ๆ สถิติบ่งชี้ว่า 78% ของพนักงานออฟฟิศมีอาการของโรคข้อเข่าเสื่อมจากคนทำงานหนักอย่างกรรมกร ยกแบกเยอะและบ่อย ไปจนถึงงานนั่งนิ่งๆ อย่างคนขับรถ ล้วนสามารถเกิดอาการปวดข้อต่อและสลักเพชรจมได้ จากการใช้งานร่างกายมากเกินไป หรือการนั่งท่าเดิมเป็นเวลานาน

ทุกคนมีความเสี่ยงต่อโรคข้อเข่าเสื่อม

ผลข้างเคียงที่อันตรายต่อกระดูกและข้อต่อซึ่งการแพทย์ประเมินว่าร้ายแรง

สมาคมโรคข้อแห่งเอเชียแปซิฟิก (APLAR) เผยผู้สูงอายุที่เป็นโรคข้อมีความเสี่ยงต่อการหกล้มหรือได้รับบาดเจ็บสูงกว่าประมาณ 2.5 เท่า
ในประเทศไทยมีผู้ป่วยมากกว่า 10 ล้านคนสูญเสียความสามารถในการทำงานจากโรคข้อต่อกระดูก นอกจากจะทำให้ผู้ป่วยรู้สึกเจ็บปวดแล้ว ยังส่งผลต่อชีวิตของผู้ป่วยเป็นอย่างมาก เช่น:
การนอนหลับไม่เพียงพอ ส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงาน การใช้ชีวิต ประกอบกับน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น โรคอ้วน โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง และภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ ของโรคข้ออักเสบอาจรวมถึง: โรคกระดูกพรุน กระดูกหัก หรือการติดเชื้อในข้อต่อ การเสื่อมสภาพของเส้นเอ็นและเอ็นรอบข้อต่อ เส้นประสาทถูกกดทับกล้ามเนื้อลีบ ข้อต่อผิดรูป หรือพิการ เป็นภาวะแทรกซ้อนที่พบบ่อยของโรคข้ออักเสบ ภาวะแทรกซ้อนเหล่านี้ทำให้เกิดข้อตึง ผู้ป่วยจะกำหมัดหรือหมุนแขนและไหล่ได้ยาก ภาวะแทรกซ้อนที่อันตรายและร้ายแรงกว่านั้น เช่น กล้ามเนื้อลีบ ข้อผิดรูป ข้อยึดติด จนถึงอัมพาต ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้หากผู้ป่วยไม่ได้รับการรักษาที่เหมาะสมและทันทีในระยะสุดท้ายของโรค
นอกจากโรคข้ออักเสบที่ก่อให้เกิดโรคแทรกซ้อนในข้อต่อแล้ว ยังมีโรคข้ออักเสบบางชนิดที่ทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนที่อวัยวะอื่นๆ เช่น โรคไขข้ออักเสบเฉียบพลัน ซึ่งสามารถทำลายหัวใจ โดยเฉพาะลิ้นหัวใจ ส่งผลให้เกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ และอาจนำไปสู่การเสียชีวิตในวัยชราได้
ภาวะแทรกซ้อนของโรคนี้อันตรายและมากมายจนนับไม่ถ้วน ส่งผลให้ผู้ป่วยพิการและทุพพลภาพถาวร โรคนี้เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดความพิการและทุพพลภาพถาวร

มีวิธีรักษาอาการและภาวะแทรกซ้อนอันตรายของโรคนี้หรือไม่?

โรคข้อข้อต่อทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนร้ายแรง

วิธีการรักษาและป้องกันโรค

เพื่อตอบคำถามของผู้ป่วย เราได้สัมภาษณ์ศจ.นพ.คงเดช ฤทธิ์ทวี ซึ่งเป็นคนเอเชียคนแรกที่คว้ารางวัล‘ผู้นำด้านสาธารณสุข’จาก ม.ฮาร์วาร์ด เขาได้รับรางวัลสุขภาพเกี่ยวกับการแพทย์อันทรงเกียรติและทรงคุณูปการต่อการแพทย์แผนไทยด้วยการวิจัยโรคกระดูกและข้อมากว่า 20 ปี

ศจ.นพ.คงเดช ฤทธิ์ทวี คนเอเชียคนแรกที่คว้ารางวัล‘ผู้นำด้านสาธารณสุข’จาก ม.ฮาร์วาร์ด

"ผู้สื่อข่าว: เรียนศจ.คงเดช ฤทธิ์ทวี ในฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญมีประสบการณ์ศึกษาเกี่ยวกับโรคข้อเข่าเสื่อมมานานหลายปี ศจ.คงเดช ช่วยบอกหน่อยได้ไหมว่ามีวิธีรักษาโรคนี้ให้ได้ผลดี"

ศจ.คงเดช: ปัจจุบัน การค้นหาวิธีการรักษาที่มีประสิทธิภาพนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย มีโฆษณามากมายเกี่ยวกับวิธีการรักษาโรคกระดูกและข้อต่อด้วยหัวข้อที่ดึงดูดความสนใจ เช่น "เคล็ดลับในการรักษาโรคกระดูกและข้อต่อโดยไม่ต้องใช้ยา" "สูตรยาแผนโบราณสำหรับรักษาโรคกระดูกและข้อต่อภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง" โฆษณาเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นการโฆษณาเกินจริง ฉวยโอกาสจากความไม่รู้และความวิตกกังวลของผู้ป่วยเพื่อขายยาเถื่อนเอาผลกำไร

ปกติแล้ว ผู้ป่วยมักจะหาวิธีการรักษาแบบดั้งเดิม เช่น การใช้สมุนไพร ยาตำรับ น้ำมันสัตว์ ยาแผนโบราณ หรือแม้แต่การดูดวง อย่างไรก็ตาม การใช้ยาสมุนไพรโดยไม่ได้รับการตรวจสอบจากแพทย์ หรือการประคบด้วยสมุนไพร นวด อาจทำให้กระดูกผิดรูปและทำให้โรคร้ายแรงยิ่งขึ้น

การใช้ยาแก้ปวดและกายภาพบำบัดที่ไม่มีคุณภาพ ไม่เพียงแต่ไม่ได้ผล แต่ยังส่งผลเสียต่อสุขภาพผู้ป่วยและอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง จากประสบการณ์ของผม พบผู้ป่วยจำนวนมากที่เคยใช้ยาที่มีสารเคมีอันตรายมากเกินไป ส่งผลให้เสียเงินและเกิดผลข้างเคียงยาส่วนใหญ่เสี่ยงต่อการทำลายการทำงานของตับ แผลในกระเพาะอาหาร ระคายเคืองต่อลำไส้ สูญเสียความทรงจำ สมาธิสั้น ดื้อยางานวิจัยพบว่า 57% ของผู้ที่ใช้ยาแก้ปวดเป็นประจำเป็นโรคแผลในกระเพาะอาหารจากยาที่มีส่วนผสมของสารเคมีอันตราย

ยาปลอมเป็นอันตรายต่อผู้ป่วย

นักข่าว: น่ากังวลจริง ๆ นะครับท่าน แล้วท่านคิดว่ามีวิธีรักษาที่ดีที่สุดหรือไม่?

ศจ.คงเดช: โรคข้อเข่าเสื่อมเป็นโรคที่พบบ่อยและอันตราย ตัวผมเองก็กังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ หลังจาก ทุ่มเท ศึกษา และหาทางออกมานานหลายปี แต่ ผมรู้สึกดีใจมากที่เมื่อเร็ว ๆ นี้ ผมได้ร่วมมือกับ 6 โรงพยาบาลชั้นนำของเอเชียได้ค้นพบวิธีการรักษาที่ได้รับการยกย่องอย่างสูง นั่นคือ ผลิตภัณฑ์ยาสำหรับรักษาโรคข้อเข่าเสื่อมที่สามารถรักษาให้หายขาด โดย ไม่มีผลข้างเคียงที่เป็นอันตราย ด้วยประสบการณ์กว่า 20 ปีของการวิจัยยาหลายชนิด นี่คือผลิตภัณฑ์ที่ผมมั่นใจที่สุด

นักข่าว: ยานี้คืออะไร? มีผลข้างเคียงอันตรายหรือไม่? และจะพิสูจน์ได้อย่างไรว่ายานี้มีประสิทธิภาพจริง? มีอะไรแตกต่างจากยาอื่น ๆ บ้างครับ คุณหมอ?

ศจ.คงเดช: ผลิตภัณฑ์มีชื่อว่า Flexvitsซึ่งเป็นยาที่เราได้วิจัยและพัฒนาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 5 ปี ผ่านการทดลองมากมายทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์นี้ ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ส่วนผสมหลักของยาถูกสกัดจากสมุนไพรหายากที่ล้ำค่า Flexvits ตอบสนองต่อเกณฑ์ดังต่อไปนี้:

1. ผลิตภัณฑ์ปลอดภัย สกัดจากส่วนผสมธรรมชาติ ปลอดภัยต่อสุขภาพผู้ป่วย
2. ไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงอันตราย เหมาะกับผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่นเบาหวาน โรคอ้วน โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง...
3. ผ่านการวิจัยอย่างยาวนานจากผู้เชี่ยวชาญชั้นนำ นำไปใช้กับวิธีการผลิตที่ทันสมัยที่สุดในอุตสาหกรรมการแพทย์
4. ผ่านการทดสอบอย่างเข้มงวดจาก FDA เช่นเดียวกับการประเมินทางการแพทย์อื่นๆ
5. ผลลัพธ์การทดสอบในผู้ป่วยจริง ประสบความสำเร็จสูงสุด
นักข่าว: ผลการทดลองที่คุณเพิ่งพูดถึงคืออะไร? เราเคยได้ยินเกี่ยวกับการทดลองนี้มาบ้าง แต่ต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติม

ศจ.คงเดช: ก่อนที่จะเปิดตัวสู่สาธารณะ ผลิตภัณฑ์นี้ได้รับการทดสอบกับอาสาสมัครกว่า 5,000 คนที่มีอายุระหว่าง 20 ถึง 85 ปี โดยมีอาการและระดับความรุนแรงของโรคข้ออักเสบที่หลากหลาย อาสาสมัครปฏิบัติตามแผนการรักษา Flexvits ผลการทดสอบได้ขจัดความกังวลทั้งหมดของผู้ป่วยและได้รับการยกย่องจากผู้เชี่ยวชาญชั้นนำในประเทศไทยและทั่วโลก
ในสัปดาห์แรก ผู้ป่วย 67% บอกว่าอาการปวดลดลงมากกว่าครึ่ง อาการปวดปวดสลักเพชรจมค่อยๆ น้อยลง ไหล่ ข้อเข่า หลัง แขน ขา ดีขึ้น สามารถทำงานได้
อาสาสมัครตรวจสารเสพติด

นักข่าว: ผลการทดลองที่คุณเพิ่งพูดถึงคืออะไร? เราเคยได้ยินเกี่ยวกับการทดลองนี้มาบ้าง แต่ต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติม

ศจ.คงเดช: ก่อนที่จะเปิดตัวสู่สาธารณะ ผลิตภัณฑ์นี้ได้รับการทดสอบกับอาสาสมัครกว่า 5,000 คนที่มีอายุระหว่าง 20 ถึง 85 ปี โดยมีอาการและระดับความรุนแรงของโรคข้ออักเสบที่หลากหลาย อาสาสมัครปฏิบัติตามแผนการรักษา Flexvits ผลการทดสอบได้ขจัดความกังวลทั้งหมดของผู้ป่วยและได้รับการยกย่องจากผู้เชี่ยวชาญชั้นนำในประเทศไทยและทั่วโลก
ในสัปดาห์แรก ผู้ป่วย 67% บอกว่าอาการปวดลดลงมากกว่าครึ่ง อาการปวดปวดสลักเพชรจมค่อยๆ น้อยลง ไหล่ ข้อเข่า หลัง แขน ขา ดีขึ้น สามารถทำงานได้

อาสาสมัครตรวจสารเสพติด

เมื่อสิ้นสุดสัปดาห์ที่ 2 ผู้ป่วย 79% รู้สึกดีขึ้น อาการต่างๆ เช่น อาการปวดร้าว ลงขา ปวดข้อเข่า ตึงข้อเท้า และมือ บวมแดง ลดลงอย่างเห็นได้ชัด

หลังจาก 21 วัน ผู้ป่วยทุกคน รู้สึกประหลาดใจกับผลลัพธ์ของยา ผู้ป่วยโรคเกาต์และโรคข้อเสื่อมเรื้อรังสามารถเดินได้ตามปกติ ผู้ป่วยวัยหนุ่มสาวที่รู้สึกปวดเมื่อยเล็กน้อยไม่รู้สึกจำเป็นต้องใช้วิธีการรักษาเพิ่มเติมอีกต่อไป

หลังการรักษา 21 วัน ผู้ป่วยทุกคนมีการเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดคิด

หลังจากผ่านการทดลองเป็นเวลา 28 วัน ผลลัพธ์ปรากฏว่า 98% ของผู้ป่วย หายเป็นปกติ โดยไม่ต้องรับการรักษาเพิ่มเติมด้วยวิธีอื่นใด มีเพียง 2% ที่มีภาวะแทรกซ้อนรุนแรง จำเป็นต้องได้รับการรักษาเพิ่มเติมเพื่อ รักษาให้หายขาด อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยเหล่านี้สามารถกลับไปใช้ชีวิตอย่างปกติ อาการปวดแทบจะไม่มีแล้ว แพทย์แนะนำให้ใช้ยาเพิ่มเติมและรักษาต่อที่บ้านเพื่อป้องกันไม่ให้โรคกลับมาเป็นอีก

กิจกรรมขอบคุณของผู้อาสาสมัครหลังการรักษา 28 วัน

สถิติติดตามผู้ป่วยเป็นเวลา 28 วัน

นักข่าว: น่าดีใจจริง ๆ ค่ะคุณหมอ แต่ว่าผลิตภัณฑ์ที่มีข้อดี เกือบ จะสมบูรณ์แบบแบบนี้ คงจะมีราคาสูงมาก ผู้ป่วยที่ยากจนจะสามารถใช้ได้อย่างไรคะ คุณหมอคิดว่านี่เป็นข้อเสียที่ใหญ่ที่สุดของยาตัวนี้ หรือเปล่าคะ?

ศจ.คงเดช: ด้วยประสบการณ์การวิจัย 20 ปีและความสำเร็จของฉัน Flexvits เป็นก้าวสำคัญในด้านการแพทย์ เป็นผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองเกณฑ์ทั้งหมดด้านความปลอดภัยและประสิทธิภาพสำหรับผู้ป่วย เราประเมินผลิตภัณฑ์นี้สูงมากและได้รับการอนุมัติจากสาธารณสุข เรามั่นใจว่าใน 10 ปีข้างหน้า ยากจะมีผลิตภัณฑ์รักษาโรคข้อต่อใด ๆ ที่จะเหนือกว่าได้

Flexvits ได้รับการยกย่องอย่างสูงจากผู้เชี่ยวชาญ

นักข่าว: ดีใจด้วยครับ แล้วเราสามารถซื้อยาได้ที่ไหน? เรายังไม่ค่อยเชื่อว่ายาไม่มีผลข้างเคียงเลย!

ศจ.คงเดช: หลังจากการวิจัยกว่า 5 ปี และผ่านการทดลองเป็นหลายร้อยครั้งทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ กับผู้ป่วยหลายพันคน ข้อเสียอย่างเดียวของผลิตภัณฑ์ยาตัวนี้ก็คือหายาก เนื่องจากปริมาณการผลิตในปัจจุบันของเรามีจำกัดและยังไม่สามารถที่จะตอบสนองความต้องการของผู้ป่วยข้อต่อและสลักเพชจมจำนวนมหาศาลได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่มีประกาศเปิดตัวผลิตภัณฑ์อย่างเป็นทางการ ยานี้เริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้นและจำนวนคำสั่งซื้อก็เพิ่มสูงขึ้น
เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหายาปลอมหรือการขึ้นราคาเพื่อเอาเปรียบ เราจึงยังไม่ได้นำยาออกจำหน่ายในร้านขายยาทั่วไปได้ ผู้ป่วยสามารถหาซื้อยาได้ที่เว็บไซต์หลักของหน่วยงานวิจัยและผลิตเท่านั้น
นี่คือเว็บไซต์ทางการที่จัดทำโดย ศจ.นพ.คงเดช ฤทธิ์ทวีเอง ผู้ป่วยสามารถฝากข้อมูลไว้เพื่อได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญและปรึกษาวิธีการรักษา - บอกลาโรคข้ออักเสบสลักเพชจมเพียงใช้ครั้งเดียว"

ไม่เพียงเท่านั้น Flexvits ยังยืนยันคุณภาพของตัวเองด้วยการได้รับการรับรองอย่างต่อเนื่องจากทั้งการแพทย์แผนไทยโดยเฉพาะ และ นานาชาติโดยรวม คุณจึงสามารถมั่นใจได้อย่างเต็มที่ เพราะรัฐบาลได้คุ้มครองและอุดหนุนยาเพื่อให้เข้าถึงผู้ใช้มากขึ้น โดยเฉพาะผู้ป่วยที่ยังไม่มี ศักยภาพทางการเงิน ในการเปิดตัวครั้งแรก Flexvitsได้รับเงินสนับสนุนจากโครงการแพทย์วิชัยเอเชีย คิดเป็น 50%ของราคา 1980 บาท เหลือเพียง 990 บาท ผู้ป่วยโรคข้อต่อเพียง ปฏิบัติตาม คำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ และ ใช้ยาตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด ย่อม รับรองว่าสามารถรักษาโรคได้