สุกัญจนา เลิศไพพงษ์ศาล: สวัสดีค่ะ จริงๆแล้วปัญหานี้ร้ายแรงมาก ตามรายงาน World Vision ฉบับแรกของ WHO ระบุว่ามีผู้พิการทางสายตาหรือตาบอดอย่างน้อย 2,200 ล้านคนทั่วโลก ในจำนวนนี้มากกว่า 1,000 ล้านคนเกิดจากการขาดการป้องกันและการรักษาที่เหมาะสม
ผู้สื่อข่าว: สวัสดีครับ คุณสุกัญจนา เลิศไพพงษ์ศาล ผมอยากรู้ว่าปัญหาโรคตาในไทยตอนนี้กำลังร้ายแรงแค่ไหนครับ?
ในส่วนของประเทศไทย สถานการณ์ของเราก็ไม่แพ้ใคร! มองไปรอบๆจะเห็น คน 1 ใน 3 สวมแว่นตา และไม่เพียงแต่เฉพาะคนแก่เท่านั้น แต่รวมถึงคนช่วงวัยหนุ่มสาวด้วย ทั้งนี้แม้ว่าเราจะมีวิธีการรักษาที่มีประสิทธิผลและราคาไม่แพงสำหรับปัญหาสายตาทั้งหมดอยู่แล้วก็ตาม
นักข่าว: คุณหมอครับ ยาหยอดตาที่ขายในร้านขายยาทุกชนิดใช้ไม่ได้ผลเหรอครับ?
สุกัญจนา เลิศไพพงษ์ศาล: ใช่แล้วค่ะ และนี่เป็นอีกหนึ่งความเจ็บปวดครั้งยิ่งใหญ่สำหรับฉันในฐานะหัวหน้าสมาคมจักษุวิทยาแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ฉันจะบอกอะไรให้นะคะ ยาหยอดตาเหล่านี้ไม่เพียงแต่ไร้ประโยชน์แต่ยังอันตรายอีกด้วย ส่วนประกอบทางเคมีที่สร้างสารเหล่านี้จะกัดกร่อนเยื่อบุตาและทำให้เกิดข้อบกพร่องที่กระจกตาซึ่งไม่สามารถแก้ไขได้ ห้ามใช้อย่างต่อเนื่องโดยเด็ดขาด!
ปัญหาอีกประการหนึ่งคือการแก้ไขสายตาด้วยเลเซอร์ ฉันต้องการให้คนจำนวนมากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้เข้าใจว่าในปัจจุบันการผ่าตัดดังกล่าวถือเป็นเรื่องล้าสมัยแล้ว
การผ่าตัดไม่ได้ผลและเป็นอันตรายอย่างยิ่ง ผู้ป่วยส่วนใหญ่ หลังจากการแก้ไขด้วยเลเซอร์ การมองเห็นจะเสื่อมลงอีกครั้งและแย่ลงกว่าเดิม ซึ่งจะเกิดขึ้นภายใน 6-12 เดือนหลังการผ่าตัด และประมาณร้อยละ 79 ของคนไข้เกิดอาการแทรกซ้อนร้ายแรงจนอาจถึงขั้นตาบอดได้!